- + ประกาศขายบ้าน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
GBP - £
- ซื้อ
- เช่า
- มีให้เช่าในกรุงเทพมหานคร
- ตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพมหานคร
- ยูนิตปล่อยเช่าล่าสุด
- ลงประกาศให้เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น ทาวน์เฮ้าส์ สำหรับขาย ขนาด 6 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 679 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ บ้านพันนา เอกมัย-รามอินทรา บนทำเลของ ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร และสร้างเสร็จแล้วเมื่อ ธ.ค. 2566 ซึ่งคุณสามารถซื้อ ทาวน์เฮ้าส์ นี้ได้ที่ราคา £1,690,000 (£2,480/ตรม.)
ขายโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น +1ดาดฟ้า โครงการพันนา หลังห้าง Central Eastville ทำเลทอง เดิน 70 ม. ถึงห้างได้เลย เนื้อที่ 119.3 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 679 ตร.ม. 6 ห้องนอน (ห้องน้ำในตัวทุกห้อง) 9 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 1 ห้องปาร์ตี้/ประชุมงาน 1 ครัวไทย 2 ครัวฝรั่ง รวมโอน-ภาษี บ้านสภาพดีมากอยู่แค่ 1 ปี ใหม่ทุกอย่าง Build-in แน่นๆ จัดเต็มพร้อมอยู่ได้เลย มีทีวีทุกห้อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเลือกอย่างดีทั้งหมด ทำระแนงไม้ พรางสายตา สวยอบอุ่น แตกต่างจากหลังอื่นๆ ภาพบรรยากาศโถงทางเดิน และบันไดบางส่วนของบ้าน ตกแต่งอลังการทุกชั้น ชั้น1 ห้องครัว+ห้องแม่บ้าน ครัวใหญ่ของบ้านตกแต่งสไตล์อังกฤษวินเทจ เพดานสูงพิเศษ ห้องนอนชั้นล่าง ห้องน้ำส่วนตัว ใช้เป็นห้องนอนแม่บ้าน หรือผู้สูงอายุก็ได้ โซฟาพรีเมี่ยมราคาสามแสนกว่าบาท ทีวีขนาดใหญ่ โต๊ะทานข้าวเข้าเซ็ตกลางบ้าน มีห้องเก็บรองเท้าที่จุได้เยอะ ชั้น 2 ห้องรับแขก+คาราโอเกะ มีห้องน้ำ ห้องเก็บของ มีครัว ทำอาหารได้ ชั้น 3 ห้องนอนใหญ่ที่สุดในบ้าน ครอบคลุมพื้นที่ทั้งชั้น มี walk in closet และอ่างอาบน้ำ ชั้น 4 > ห้องนอน1 ตกแต่งสไตล์ สแกนดิเนเวียนผสมบาหลี เหมือนได้พักผ่อนริมทะเล ชั้น 4 > ห้องนอน 2 ตกแต่งสไตล์ยุโรป มีห้องน้ำในตัว ชั้น 5 > ห้องนอน 1 กว้างใหญ่มี walk in closet อ่างอาบน้ำ ตกแต่งสไตล์ Luxury ชั้น 5 > ห้องนอน 2 ตกแต่งสไตล์ยุโรป ห้องสีขาวสบายตา มีห้องน้ำในตัว ชั้นดาดฟ้า โซน indoor และ outdoor ด้านในมีบาร์ ทีวี แอร์ กำแพงสีขาว มีไฟเล่นสียามค่ำคืน บรรยากาศตอนกลางคืน ไฟสวยมาก วิวมองเห็น Central Eastville ลมเย็นนั่งชิลล์ ดีมากๆ ทีวีสามารถต่อคาราโอเกะได้ นั่งคุยงานได้จุคนได้เยอะมาก
ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในตัวอาคารสำหรับทาวน์เฮ้าส์ในชื่อของตัวเองได้ แต่จะไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้ปลูกสร้างทาวน์เฮ้าส์ได้
ชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจำเป็นต้องถือครองด้วยวิธีการถือสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี หรือว่าการซื้อที่ดินภายในชื่อของบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ บ้านพันนา เอกมัย-รามอินทรา และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน
คุณอยากทราบหรือไม่? ว่ายูนิตของคุณควรตั้งราคาขายเท่าไหร่? แค่ลงประกาศขายได้ฟรีกับเรา