- + ประกาศขายบ้าน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
GBP - £
- ซื้อ
- เช่า
- มีให้เช่าในกรุงเทพมหานคร
- ตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพมหานคร
- ยูนิตปล่อยเช่าล่าสุด
- ลงประกาศให้เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
โครงการ แชปเตอร์ เจริญกรุง–ริเวอร์ไซด์ เป็นโครงการประเภท คอนโด / อพาร์ทเม้นท์ ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ สำเหร่, กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีแผนการก่อสร้างให้แล้วเสร็จใน มี.ค. 2570 โดยมีทั้งหมด 7 ชั้น รวมทั้งสิ้น 43 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการคุณภาพโดย พฤกษา เรียลเอสเตท และเป็นบริษัทเดียวกันที่ได้พัฒนาโครงการ Chapter One More Kaset (แชปเตอร์วัน มอร์ เกษตร), Pruksa Ville @Work Ramintra Station (พฤกษาวิลล์ @เวิร์ค รามอินทรา สเตชั่น) และ Pruksa Ville Srinakarin-Bangna (พฤกษาวิลล์ ศรีนครินทร์-บางนา). อีกด้วย
แชปเตอร์ เจริญกรุง–ริเวอร์ไซด์
ที่พักอาศัยริมแม่น้ำ ใจกลางย่านประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ
แชปเตอร์ เจริญกรุง–ริเวอร์ไซด์ นำเสนอประสบการณ์การอยู่อาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่โอบล้อมด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมและความคลาสสิกของย่านเจริญกรุง ผสานความหรูหราทันสมัยกับบรรยากาศอันเงียบสงบอย่างลงตัว
ทุกยูนิตออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เปิดรับแสงธรรมชาติ และชมวิวแม่น้ำอันงดงามได้อย่างเต็มที่ ให้คุณได้สัมผัสความเป็นส่วนตัวและความสงบ ในขณะเดียวกันก็สามารถเชื่อมต่อกับชีวิตเมืองได้อย่างสะดวกสบาย
ตั้งอยู่ใกล้ ICONSIAM สถานี BTS และโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ “แชปเตอร์ เจริญกรุง–ริเวอร์ไซด์” จึงไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัว ที่หลอมรวมอดีตและปัจจุบันไว้อย่างกลมกลืน
ลองเช็คดูก่อนว่าบ้านของคุณนั้นควรมีราคาอยู๋ที่ประมาณเท่าไหร่ ในทำเลนี้?
Pruksa Real Estate Plc. was founded by Mr.Thongma Vijitpongpun on April 20, 1993 with the initial registered capital of Baht 50 million. It concentrates on developing projects for townhouses, single-detached houses and condominiums. Mr. Thongma Vijitpongpun, the founder, had brought his experience and expertise in construction from government and private projects into the business of the Company.
Such factor together with the professional management team, outsourcing consultants for continuous development of entire corporate operation process, the appropriate business strategy resulted in The Company’s positive bottom lines every year in a row of operation even during flooding and economic downturn. This has earned the Company and Mr. Thongma several awards in different areas, especially in the year 2013, which is considered the Company’s honorable year, due to several awards received, for instance, Best CEO Award 2013, and Best Company Performance Award 2013 from the Stock Exchange of Thailand. The Company also received another 3 outstanding awards in Social Responsibility aspect in the very same year.
Pruksa aims to be the number one real estate brand in customers’ minds with the goal of becoming a top ten residential brand in Asia by creating high-value homes for families to experience warmth, happiness and a better life every day.
We are dedicated to fulfilling our customer’s dreams of owning a home that truly values to enjoy their family life.
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ แชปเตอร์ เจริญกรุง–ริเวอร์ไซด์ และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
สำหรับคอนโดมือหนึ่ง
- ก่อนการยื่นกู้ ผู้ซื้อจะต้องผ่อนชำระเป็นเงินดาวน์กับโครงการเป็นระยะเวลาหนึ่งตามตกลง เพราะฉะนั้นผู้ซื้อควรต้องมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งสำหรับผ่อนดาวน์ให้ครบสัญญา
- เมื่อยื่นกู้ ทางธนาคารมักจะอนุมัติให้กู้ได้เต็มจำนวน 100% ของยอดที่เหลือหลังผ่อนดาวน์ เพราะธนาคารจะประเมินว่าท่านมีศักยภาพเพียงพอในการผ่อนชำระ
สำหรับคอนโดมือสอง
- ไม่มีระบบผ่อนดาวน์กับทางผู้ขาย ก่อนการยื่นกู้
- ธนาคารมักจะไม่อนุมัติเต็มจำนวนให้ โดยทั่วไปจะอนุมัติที่ 80 - 90% ของราคาประเมิน หรือ ราคาซื้อขาย (ธนาคารมักจะเลือกราคาที่ต่ำกว่า)
- ผู้ซื้อควรต้องมีเงินสำรอง เพื่อรองรับกับยอดกู้ที่ขาดไป 10-20% เพื่อเป็นเงินจ่ายตรงให้กับผู้ขาย
- ผู้ซื้อควรมีเงินสำรองอีกก้อน เพื่อใช้สำหรับการซ่อมบำรุง
ทั้งนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกเปรียบเทียบการปล่อยกู้ของแต่ละธนาคารได้ก่อนการยื่นกู้ ซึ่งรายละเอียดอาจจะแตกต่างจากที่กล่าวมาข้างต้น ขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยและนโยบายของแต่ละธนาคาร
การซื้อคอนโดนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง หรือกำลังก่อสร้างอยู่ รวมไปถึงหากอยากมั่นใจริงๆ คือซื้อในช่วงที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ห้องที่ต้องการหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะโดยส่วนใหญ่ โครงการคอนโดมักจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่ช่วงยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างเลย โดยใช้กลยุทธทางการตลาดต่างๆ เพื่อดึงผู้ซื้อเข้ามาเพื่อนำเงินจองทำสัญญาและเงินดาวน์ต่างๆ เข้ามาเพิ่มเป็นเงินทุนในการดำเนินการก่อสร้างของโครงการ ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของผู้ซื้อ ดังนี้
1. ได้รับโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากกว่าปรกติ เช่น ส่วนลดพิเศษถ้าซื้อช่วง Pre-Sale, ได้รับเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดหลายชิ้นฟรี, ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ, หรือส่วนลดค่าส่วนกลางตามระยะที่กำหนด ฯลฯ
2. สามารถเลือกห้องที่ต้องการได้อย่างเสรี ทั้งแบบห้อง และ ทำเลของห้องเพราะเหลือห้องให้เลือกมากมาย
3. ธนาคารสามารถปล่อยให้กู้ได้เต็มจำนวนของค่าห้อง
4. หากท่านเป็นนักลงทุน การซื้อห้องแบบ Pre-Sale ก็จะช่วยให้ท่านสามารถเพิ่มกำไรในการ ปล่อยเช่า หรือ ขายต่อ ได้ดีมากอีกด้วย
แต่ในข้อดีบางอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ท่านก็ควรพิจารณาถึงข้อเสียไว้ด้วย ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ดังนี้
1. การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเข้าอยู่แบบเร่งด่วน หรือไม่เผื่อระยะเวลาให้กับการก่อสร้าง
2. ไม่ผ่านการขออนุมัติ EIA (หลายโครงการเปิดขายไปแล้ว ก่อสร้างไปแล้ว แต่ยื่นขอไม่ผ่าน)
3. หากเกิดข้อพิพาทใดๆ ในระหว่างการก่อสร้าง หรือ หลังจากสร้างเสร็จ ทำให้เสียเวลาในการฟ้องร้องและเสียสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก
4. มีโอกาสที่วิวต่างๆ หรือบรรยากาศการเข้าพัก ที่เคยคิดไว้ว่าเราจะได้รับเป็นอย่างดีเมื่อตอนก่อนก่อสร้าง จะถูกบดบังในอนาคตเพราะโครงการใหม่ ๆ อาจจะก่อสร้างในภายหลังได้
โครงการ แชปเตอร์ เจริญกรุง–ริเวอร์ไซด์ อยู่ห่างจาก Lotus's Go Fresh, Charoen Nakhon เพียงแค่ 930 เมตรเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเดินไปเพียง 13 นาที
และยังมีร้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ แชปเตอร์ เจริญกรุง–ริเวอร์ไซด์ ซึ่ง 3 ร้านที่ใกล้ที่สุด คือ
- Mercado Asiatique อยู่ห่างประมาณ 1.1 กม. (ขับรถไปประมาณ 4 นาที)
- Tang Mong Ltd.,Part. อยู่ห่างแค่ 930 เมตรเท่านั้น (ใช้เวลาเดินประมาณ 13 นาที)
- Pdbc Center ซึ่งอยู่ห่างไปแค่ 1.1 กม. (สามารถขับรถไปแค่ประมาณ 3 นาที)
ร้านอาหารที่ใกล้กับโครงการ แชปเตอร์ เจริญกรุง–ริเวอร์ไซด์ นั้นมีให้เลือกมากมาย เราขอเสนอร้านที่ใกล้ที่สุด ดังนี้
- Wang Mai Hua Pla Mo Fai นั้นอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 420 เมตร (ซึ่งคุณสามารถเดินไปที่ร้านได้ ในเวลาประมาณ 6 นาที เท่านั้น)
- NJ GRILL STEAK & MORE อยู่ห่างจากโครงการเพียง 390 เมตร (คุณแค่เดินไปประมาณ 5 นาที ก็ถึงแล้ว)
- หอมกระทะ (Hom Kra-Ta) นั้นอยู่ห่างไปประมาณ 380 เมตร (เดินไปที่ร้านใช้เวลาประมาณ 5 นาที)
針クリニック เป็นสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห่างจากโครงการไป 1.2 กม. (ซึ่งหากขับรถไป ก็จะใช้เวลาประมาณ 3 นาที)
หากจะมองหาสถานศึกษาหรือแหล่งเรียนรู้ใกล้ๆกับโครงการ นี่คือสถานที่ที่เราแนะนำ
- Keauvithaya School อยู่ห่างไปเพียง 800 เมตรเท่านั้น (เดินไปแค่ 11 นาที เท่านั้นเอง)
- โรงเรียน วัดราชวรินทร์ - wat ratjawarin school อยู่ห่างแค่ 2.0 กม. (หากจะขับรถไป ก็ประมาณ 7 นาที)
- OnStage Performing Arts School อยู่ห่างไปประมาณ 880 เมตรเท่านั้นเอง (สามารถเดินเพียง 12 นาที ก็ถึง)
Suvarnabhumi Airport นั้นอยู่ห่างจากโครงการ 41.9 กม. ซึ่งหากขับรถไปจะใช้เวลาโดยประมาณ 43 นาที หรือหากจะเดินทางด้วยแท๊กซี่ ก็ขึ้นอยู่กับการจราจร ณ ช่วงเวลานั้นๆ